หัวข้อ   “ ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า
นักเศรษฐศาสตร์มั่นใจเศรษฐกิจไทย 3-6 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้นจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม กราฟของดัชนีฯ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีขึ้น
กินระยะเวลาเพียงสั้นๆ เพียง 5-6 ไตรมาสเท่านั้น
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                  กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์
เปิดเผยผลสำรวจความเห็น นักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 30 แห่ง จำนวน 72 คน
เรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า”
โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 12 – 20 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา พบว่า
 
                  ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
อยู่ที่ระดับ 24.51(เต็ม 100) ลดลงเล็กน้อยจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 25.67
ซึ่งการที่ดัชนีมีการปรับตัวลดลงและค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมาก
สะท้อนให้เห็นถึงสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่ยังอ่อนแออยู่เป็นอย่างมาก
เมื่อวิเคราะห์ลงไปในแต่ละปัจจัยขับเคลื่อนพบว่าทุกปัจจัยค่าดัชนีอยู่ในระดับที่
ต่ำกว่า 50
โดยเฉพาะปัจจัยด้านการส่งออกสินค้า(ดัชนีเท่ากับ 7.75) การลงทุนภาคเอกชน
(ดัชนีเท่ากับ 17.61) และการบริโภคภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 18.31) ที่อยู่ในสถานะ
อ่อนแอเป็นอย่างมาก ขณะที่การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐซึ่งถือเป็นปัจจัย
ขับเคลื่อนเดียวที่ทำงานได้ดีกว่าปัจจัยอื่นแต่ค่าดัชนีก็ยังคงอยู่ในระดับ 38.03
เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับ 40.85 ซึ่งต่ำกว่า 50
 
                  ด้านความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีอยู่ที่ 70.35
ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ค่าดัชนีเท่ากับ 76.11) เช่นเดียวกับความเชื่อมั่น
ต่อเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้าที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 80.99 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา
(ค่าดัชนีเท่ากับ 86.72) การที่ค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 ค่อนข้างมาก
สะท้อนให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือน
ข้างหน้าจะยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่ความมั่นใจดังกล่าวมีระดับที่ลดลง
จากการสำรวจ 2 ครั้งก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า
จะอยู่ในภาวะฟื้นตัวและจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าว
ไม่ได้กินระยะเวลานาน หากแต่กินระยะเวลาเพียงสั้นๆ เพียง 5-6 ไตรมาสเท่านั้น
 
                  เมื่อพิจารณาปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้าพบว่าทุกปัจจัยค่าดัชนีอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50
แสดงให้เห็นว่าทุกปัจจัยขับเคลื่อนจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน อย่างไรก็ตามหากพิจารณาแต่ละปัจจัยขับเคลื่อนเปรียบเทียบกับ
การสำรวจครั้งก่อนหน้าก็จะพบว่าค่าดัชนีปรับลดลงเกือบทุกปัจจัย (ยกเว้นการส่งออกสินค้าใน 6 เดือนข้างหน้าที่ดีขึ้นเล็กน้อย)
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์มีความมั่นใจที่ลดลงต่อปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่างๆ
 
                  ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของ
วัฏจักร พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 43.1 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) รองลงมาร้อยละ 33.3 เศรษฐกิจถดถอย
(Recession) และร้อยละ 11.1 เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough) มีเพียงร้อยละ1.4 ที่เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วง
รุ่งเรือง (Peak) เมื่อแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด(ร้อยละ 44.5) และ ฟากเศรษฐกิจ
ถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด(ร้อยละ 44.4) แล้วเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจะพบว่า เศรษฐกิจ
ปัจจุบันอยู่ในภาวะขยายตัว
 
                  ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า
  (1) เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังอยู่ในสถานะที่อ่อนแอเป็นอย่างมาก
  (2) แนวโน้มเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้า
      โดยปัจจัยขับเคลื่อนการฟื้นตัวที่สำคัญคือ การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
  (3) นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะยังคงปรับตัว
      ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่ความมั่นใจดังกล่าวมีระดับที่ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนหน้า
      แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าจะอยู่ในภาวะฟื้นตัวและจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
      แต่การดีขึ้นดังกล่าวไม่ได้กินระยะเวลานาน หากแต่กินระยะเวลาเพียงสั้นๆ เพียง 5-6
      ไตรมาสเท่านั้น
  (4) วัฏจักรเศรษฐกิจไทยปัจจุบันอยู่ในในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery)
 
                  โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้
 
            ภาพที่ 1 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทย (จำแนกตามดัชนี)
 
 
 
             ตารางที่ 1 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

ปัจจัยขับเคลื่อน
เศรษฐกิจ
ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
2556
2557
2558
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
1) การบริโภค
    ภาคเอกชน
68.97
68.10
21.31
17.80
11.02
6.72
24.26
23.81
18.31
2) การลงทุนภาค
    เอกชน
55.08
62.28
21.31
28.81
14.41
5.22
19.70
19.84
17.61
3) การใช้จ่ายและ
    การลงทุนภาครัฐ
61.40
59.82
43.33
45.61
16.38
6.62
27.21
42.62
38.03
4) การส่งออก
    สินค้า
24.58
19.49
13.11
13.56
15.25
23.88
19.12
12.70
7.75
5) การท่องเที่ยว
    จากต่างประเทศ
73.73
73.73
72.95
79.17
32.20
21.32
25.37
29.37
40.85
ดัชนีรวม
56.75
56.68
34.40
36.99
17.85
12.75
23.13
25.67
24.51
หมายเหตุ : ค่าดัชนีจะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 โดย
  ค่าดัชนีเท่ากับ 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะปกติ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ
เดิม/ไม่เปลี่ยนแปลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
  ค่าดัชนีสูงกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะแข็งแกร่ง (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ใน
ระดับ ดีขึ้น (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
  ค่าดัชนีต่ำกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะอ่อนแอ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ
แย่ลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
 
 
             ตารางที่ 2 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า
                            (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ปัจจัยขับเคลื่อน
เศรษฐกิจ
ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจ
ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
2556
2557
2558
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
1) การบริโภค
    ภาคเอกชน
61.61
50.00
30.83
45.00
35.96
42.31
79.85
70.63
69.01
2) การลงทุนภาค
    เอกชน
52.59
51.82
31.90
51.69
28.18
37.12
84.62
73.02
66.90
3) การใช้จ่ายและ
    การลงทุนภาครัฐ
66.36
67.59
49.14
64.66
25.00
31.62
82.84
89.52
81.69
4) การส่งออก
    สินค้า
55.36
34.82
32.50
55.08
66.10
65.38
74.62
62.70
61.59
5) การท่องเที่ยว
    จากต่างประเทศ
63.79
50.00
63.11
79.17
42.98
60.29
81.82
84.68
72.54
ดัชนีรวม
59.94
50.85
41.50
59.12
39.65
47.35
80.75
76.11
70.35
 
 
             ตารางที่ 3 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 6 เดือนข้างหน้า
                            (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ปัจจัยขับเคลื่อน
เศรษฐกิจ
ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจ
ในอีก 6 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
2556
2557
2558
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
1) การบริโภค
    ภาคเอกชน
61.76
50.00
50.00
61.21
53.70
64.84
90.30
86.21
81.62
2) การลงทุนภาค
    เอกชน
56.73
62.04
45.54
70.18
50.93
53.97
92.31
87.29
81.62
3) การใช้จ่ายและ
    การลงทุนภาครัฐ
70.41
81.13
60.71
79.09
40.74
48.48
93.75
95.16
86.96
4) การส่งออก
    สินค้า
64.15
47.92
47.27
67.80
77.68
76.15
83.59
76.79
76.92
5) การท่องเที่ยว
    จากต่างประเทศ
66.04
56.48
72.81
80.17
57.14
73.13
90.91
88.14
77.86
ดัชนีรวม
63.82
59.51
55.27
71.69
56.07
63.32
90.17
86.72
80.99
 
 
             ตารางที่ 4 ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใน 3 - 6 เดือนข้างหน้า

 
3 เดือนข้างหน้า
6 เดือนข้างหน้า
ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า
จะดีขึ้น
เมื่อเที่ยบกับปัจจุบัน
การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
การบริโภคภาคเอกชน
การลงทุนภาคเอกชน
การส่งออกสินค้า
การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
การบริโภคภาคเอกชน
การลงทุนภาคเอกชน
การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
การส่งออกสินค้า
ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า
จะทรงตัว
เมื่อเที่ยบกับปัจจุบัน
-ไม่มี-
-ไม่มี-
ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า
จะแย่ลง
เมื่อเที่ยบกับปัจจุบัน
-ไม่มี-
-ไม่มี-
 
 
             ตารางที่ 5 วัฏจักรเศรษฐกิจ

วัฏจักรเศรษฐกิจ
ก.ค. 56
ต.ค. 56
ม.ค. 57
เม.ย. 57
ก.ค. 57
ต.ค. 57
ม.ค. 58
เศรษฐกิจขยายตัว
(Expansion / Recovery)
13.0%
18.0%
10.0%
1.4%
44.9%
35.9%
43.1%
เศรษฐกิจรุ่งเรือง (Peak)
8.0%
2.0%
2.0%
1.4%
1.4%
1.6%
1.4%
เศรษฐกิจถดถอย
(Contraction / Recession)
63.0%
63.0%
67.0%
81.2%
33.3%
39.1%
33.3%
เศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)
3.0%
5.0%
5.0%
7.2%
11.6%
14.1%
11.1%
ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ
13.0%
12.0%
16.0%
8.8%
8.8%
9.4%
11.1%
 
 

** หมายเหตุ:  รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้   เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของ
                     นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด

 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ:
                  เพื่อสะท้อนความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันและทิศทางในอนาคต
อีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้า รวมถึงวัฏจักรเศรษฐกิจ ให้กับประชาชน และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนรับทราบเพื่อนำไปใช้
ประกอบการวางแผนนโยบายเศรษฐกิจและธุรกิจต่อไป
 
กลุ่มตัวอย่าง:

                  เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์
(กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใดอย่างหนึ่ง
จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถด้าน
เศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปีจนถึงปัจจุบัน)
ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำ
ของประเทศ จำนวน 30 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตร
ล่วงหน้า ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารธนชาต
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย บริษัทหลักทรัพย์ภัทร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย บริษัททิพยประกันชีวิต คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร
สำนักวิชาเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยขอนแก่น
คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชิงใหม่ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง และคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  การสำรวจนี้เป็นการวิจัยโดยการเลือกตัวอย่างประชากรโดยไม่อาศัยหลักความน่าจะเป็น (Non-probability
sampling) แต่ละหน่วยตัวอย่างที่จะได้รับการเลือก จึงเป็นการเลือกตัวอย่างประชากรแบบเจาะจง (Purposive sampling)
และดำเนินการรวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายในระยะเวลา
ที่กำหนด
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  12 – 20 มกราคม 2558
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 24 มกราคม 2558
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่:    
             หน่วยงานภาครัฐ
41
56.9
             หน่วยงานภาคเอกชน
20
27.8
             สถาบันการศึกษา
11
15.3
รวม
72
100.0
เพศ:    
             ชาย
45
62.5
             หญิง
27
37.5
รวม
72
100.0
อายุ:
 
 
             26 – 35 ปี
13
18.1
             36 – 45 ปี
34
47.2
             46 ปีขึ้นไป
25
34.7
รวม
72
100.0
การศึกษา:
 
 
             ปริญญาตรี
4
5.6
             ปริญญาโท
52
72.2
             ปริญญาเอก
16
22.2
รวม
72
100.0
ประสบการณ์ทำงาน:
 
 
             1 - 5 ปี
5
6.9
             6 - 10 ปี
20
27.8
             11 - 15 ปี
17
23.6
             16 - 20 ปี
9
12.5
             ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
21
29.2
รวม
72
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776